วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 14
วันพุธ ที่ 25 เม.ย. พ.ศ. 2561
ความรู้ที่ได้รับวันนี้
คำคมที่เกี่ยวกับผู้บริหาร
นำเสนอโดย นางสาวนภัสสร คล้ายพันธ์

นำเสนอโดย นางสาวกมลชนก ทองสารไตร

นำเสนอโดย นางสาวปรียา นักทำนา

นำเสนอการจัดตั้งสถานศึกษา

กลุ่มที่ 1
โครงการขอจัดตั้งสถานศึกษาระดับปฐมวัย
Kids International School

กลุ่มที่ 2
โครงการจัดตั้งสถานศึกษาระดับปฐมวัย 
big tiger international school

กลุ่มที่ 3
โครงการขอจัดตั้งสถานศึกษาระดับปฐมวัย
โรงเรียนอนุบาลนานาชาติไทย-อเมริกัน
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- สามารถนำคำคมของเพื่อนเเต่คนมาใช้ในการชีวิตได้
-สามารถนำข้อมูลการจัดตั้งสถานศึกษาไปปรับใช้ในโรงเรียนที่เราจะไปสอนได้
 ประเมินตนเอง เข้าเรียนตรงเวลา เเต่งกายเรียบร้อย
ประเมินเพื่อน ตั้งใจเรียน มีการตอบโต้สนทนากับอาจารย์ระหว่างการสอน
ประเมินอาจารย์ อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา เเต่งกายสุภาพเรียบร้อย อาจารย์ได้อธิบายเพิ่มเติมในสิ่งที่นักศึกษาได้พรีเช้น ทำให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้น

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 12
วันพุธ ที่ 4 เม.ย. พ.ศ. 2561
ความรู้ที่ได้รับวันนี้
คำคมที่เกี่ยวกับผู้บริหาร



นำเสนอคำคมโดย นางสาวศิริพร บุญประคม


นำเสนอคำคมโดย นางสาวสุดารัตน์ อาจจุฬา



นำเสนอคำคมโดย  นางสาวนิตยา นนทคำจันทร์
วันนี้เรียนเรื่อง กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร

ความหมายการนิเทศ

จุดมุ่งหมายของการนิเทศ


เนื้อหาสาระในการนิเทศ


กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร
              ความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านวิชาการในการปฏิรูปการเรียนรู้นั้น ทุกคน  ทุกฝ่ายนับเป็นองค์ประกอบสำคัญ การเป็นเพื่อนร่วมทางที่จะเดินไป
ด้วยกัน อย่างไว้ใจและเชื่อว่าจะชี้แนะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ให้ก้าวไปในทางที่ถูกต้องด้วยน้ำใจมิใช่อำนาจ คือ หนทางแห่งกัลยาณมิตร นักวิชาการ
นิเทศ ได้กล่าวเกี่ยวกับการนิเทศที่คำนึงถึงฐานวัฒนธรรมไทยว่า
          - ความเป็นกัลยาณมิตรเป็นกุญแจทองที่จะไขเปิดประตูแห่งความเป็นมิตร
          - ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยังเป็นคุณสมบัติที่คนไทยทุกคนยอมรับ
          - ความจริงใจเป็นเครื่องหล่อลื่นสัมพันธภาพ
          - ความมีน้ำใจ เป็นหยดทิพย์ที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นบาน
          - การใช้คำพูดที่สุภาพ จริงใจสม่ำเสมอเป็นเครื่องส่งเสริมความรู้สึกที่ดีต่อกัน
กัลยาณมิตร ๗ ประการในการนิเทศ
          1. ปิโย - น่ารัก สบายใจ สนิทสนม ชวนให้อยากปรึกษา
          2. ครุ - น่าเคารพ ประพฤติสมควรแก่ฐานะ อบอุ่น เป็นที่พึ่งปลอดภัย
          3. ภาวนีโย - น่ายกย่อง / ทรงคุณความรู้ /ภูมิปัญญาแท้จริง และหมั่นปรับปรุงตนอยู่เสมอ
          4. อตตา จ - รู้จักพูดให้ได้ผล รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ รู้ว่าควรพูดอะไร อย่างไร เป็นที่ปรึกษาที่ดี
          5. วจนก ขโม - อดทนต่อถ้อยคำ พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษา / คำถามคำวิพากษ์วิจารณ์
          6. คมภีรญจ กถ กตตา - แถลงเรื่องลึกล้ำได้ อธิบายเรื่องที่ยากให้ง่ายได้
          7. โน จฏฐาเน นิโยชเน - ไม่แนะนำเรื่องเหลวไหล แนะไปในทางเสื่อม
องค์ประกอบของกัลยาณมิตร
          1. ให้ใจ - การปฐมนิเทศสร้างความเข้าใจร่วมกัน
          2. ร่วมใจ - การร่วมคิด ร่วมทำงาน แลกเปลี่ยนรู้ซึ่งกันและกัน
          3. ตั้งใจ - เป็นการร่วมกันสร้างสรรค์คุณภาพในการทำงาน
                       + มุ่งมั่นสู่เป้าหมายร่วมกัน
                       + ช่วยกันแก้ปัญหา
                       + ถือว่าผลงานคือคุณภาพของผู้เรียน
          4. เปิดใจ - การวัดและประเมินตนเอง ประเมินผลงาน
                       + ประเมินผลการพัฒนาการอย่างเที่ยงตรง
                       + ปราศจากอคติ
กระบวนการกัลยาณมิตร
          1. ไม่มุ่งเน้นปริมาณ - เน้นความชัดเจนของขั้นตอน วิธีการ
          2. สานพลังอาสา - เริ่มที่ศรัทธา / อาสาสมัคร / ไม่ใช่การสั่งการ
          3. เสวนาร่วมกัน - ใช้อปริหานิยธรรม ๗
                      + หมั่นประชุมเป็นเนืองนิตย์
                      + พร้อมเพรียงทำกิจที่พึงทำ
                      + ปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้/สิ่งใดดีอยู่รู้รักษา
                      + ศรัทธา ยอมรับนับถือกันและกัน
                      + ไม่บังคับ /ไม่ห้ำหั่น /ลุแก่อำนาจบังคับบัญชา
                      + พัฒนาไปตามสภาพจริงของสถานศึกษาที่เป็นเรื่องชัดแจ้ง
                      + คุ้มครองเสริมแรง ห้ำกลังใจ
          4. สร้างสรรค์ความเป็นมิตร - ชักชวนให้ร่วมกันพัฒนา
          5. ฝึกคิดมุ่งมั่น - มีความเพียร อดทน รู้จักใช้เหตุผล
          6. ทุกวันปฏิบัติ - ทำอย่างต่อเนื่อง
          7. จัดทำบันทึกแนวทาง - รู้จักสังเกตแล้วบันทึก
ปัจจัยเกื้อหนุน ๔ ประการ
          1. องค์ความรู้
          2. แรงหนุนจากต้นสังกัด
          3. ผู้บริหารทุกระดับ
          4. บุคลากรทั้งสถานศึกษา
บทบาทของผู้บริหารในการนิเทศ
             กระบวนกัลยาณมิตร เป็นการปฏิบัติจริงในสภาพที่เป็นจริง ผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศต้องมีการปรึกษาหารือ ติดต่อสื่อสาร เยี่ยมเยียน แลกเปลี่ยน
เรียนรู้ ช่วยแก้ปัญหาและให้กำลังใจกัน
           ถ้าจะเปรียบผู้นิเทศก็เป็นเหมือนครูฝึก ( coach ) ของผู้สอน ที่จะต้องโดดลงไปร่วมคิดร่วมทำ มิใช่เพียงร้องบอกให้ผู้สอนลองผิด ลองถูก ตาม
ยถากรรม อาจต้องบอกวิธีให้รู้ สาธิตให้ดุ และช่วยแก้ไขข้อบกพร่องที่พบ
          การพบปะสนทนาเมื่อเวลานิเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ครู ศึกษานิเทศก์ กรรมการศึกษา ชุมชนรอบๆสถานศึกษา จะได้ทราบทุกข์ สุข และก่อให้
เกิดความเข้าใจในปัญหาพื้นฐาน เพื่อกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงานต่อไป
           “ คลินิกครู ” มีความจำเป็นสำหรับสถานศึกษา โดยจัดช่วงเวลาที่ครูสมารถมาพบในลักษณะกลุ่มสนใจ หรือตามประเด็นปัญหาที่มีผู้นิเทศสนทนา
ให้คำแนะนำ โดยเตรียมข้อมูลเพื่อพบปะสนทนากันใน “ คลินิก ” การเข้าใช้บริการ   “ คลินิกครู ” อาจมีลักษณะเป็นรายบุคคล เป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มย่อย
ตามความสมัครใจ ครูที่เข้าพบเป็นผู้เปิดประเด็นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน มุ่งสนับสนุนในการพัฒนาบุคลากรใน
โรงเรียนโดยผู้บริหารต้องเป็นผู้นำในการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยมีโครงการร่วมคิดร่วมทำ เพื่อปรับปรุงพัฒนา ซึ่งผู้บริหารอาจจัดระบบนิเทศ
เป็น 3 ลักษณะ คือ
          1. นิเทศการจัดบรรยากาศห้องเรียน
          2. นิเทศการจัดการเรียนการสอน
          3. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันของครู
             หลักประการสำคัญของกัลยาณมิตรนิเทศ คือเข้าใจวัฒนธรรมการคิดและ การทำการคิดและการทำงานของครู ผู้นิเทศย่อมตระหนักดีว่าครูทำงานหนักและ จำเจ เดิมๆ ซ้ำๆ หากมีใครสักคนเข้ามาดูงานของเขา อาจทำให้เขาเครียด เกร็ง ระมัดระวัง และรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ ธรรมดา เพราะเขาคิดว่าต้องมีภาระเพิ่มขึ้น  การทำงานหนักขึ้นและอาจเกิดการต่อต้าน ผู้นิเทศจึงจำเป็นต้องเริ่มงานด้วยความสัมพันธ์ที่ดี ให้ครูรู้สึกไว้วางใจ พร้อมกับนำกระบวนการนิเทศสอดแทรกกลมกลืนเข้าไปกับภาระงานปกติของครู การเยี่ยมเยียน การติดต่อสื่อสารกับครูควรหลีกเลี่ยงการใช้อำนาจของการตรวจสอบ หรือพิพากษาว่าใครถูก ใครผิด แต่ควรเป็นการให้กำลังใจ ใช้วิธีการพูดทางบวก มีการแลกเปลี่ยนความคิด และปรึกษาหารือให้ครูรู้จักสบายใจ
แนวทางการนิเทศ
    1. สร้างความสัมพันธ์ แจ้งภารกิจและความมุ่งหมาย จัดเวลา กำหนดวิธีการทำงาน
    2. จัดนิทรรศการทางวิชาการและสาธิตรูปแบบการสอน
    3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จัดบริการเอกสารทางวิชาการ
    4. วางแผนร่วมกัน เพื่อศึกษาดูงาน
    5. แนะให้ปฏิบัติตามสภาพจริง
    6. พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผลการปฏิบัติ และหาทางแก้ไขปรับปรุง
    7. เข้าร่วมประชุม สัมมนา การฝึกอบรมตามโอกาส
    8. นำเสนอผลงานในการประชุมปฏิบัติการ
    9. วัดและประเมินผลงานกัลยาณมิตรนิทศ
สรุปประเด็นสำคัญ
          หลักการสำคัญ พึงตระหนักว่าการนิเทศนั้นมิใช่การสั่งการ ตรวจสอบ บังคับบัญชา มิใช่การนิเทศกระดาษ แต่เป็นการนิเทศคน กระดาษ เป็นแผนการสอน คะแนนผลสัมฤทธิ์ หรือโครงการ เป็นองค์ประกอบที่แสดงร่องรอยการเรียนรู้ส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุด ผู้นิเทศต้องนิเทศคน พูดคุยกับครู ดูพฤติกรรมของนักเรียน สังเกตบรรยากาศและความสัมพันธ์ในสังคมเรียนรู้นั้นเพื่อเข้าถึงสถานภาพและปัญหา นำไปสู่แนวทางการนิเทศที่ถูกต้อง

          สรุปเป็นบทร้อยกรองว่า

                 ไม่ตั้งตนเป็นคนเหนือคนอื่น ควรหยิบยื่นสิ่งดีดีมีมอบให้
                 เสนอแนะให้ขวัญกำลังใจ แสดงว่าจริงใจไม่ทิ้งกัน
                 ฟังข้อมูลหนุนให้ทำนำให้คิด ชี้ถูกผิด แนะทางอย่างสร้างสรรค์
                 นำเทคนิคพลิกแพลงมาแบ่งปัน เป็นเพื่อนขวัญบนเส้นทางย่างก้าวเดิน
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- สามารถนำคำคมของเพื่อนเเต่คนมาใช้ในการชีวิตได้
- สามารถนำรูปเเบบกัลยาณมิตร มาปรับใช้ในการสอนเด็กปฐบมวัยได้ 
 ประเมินตนเอง เข้าเรียนตรงเวลา เเต่งกายเรียบร้อย
ประเมินเพื่อน ตั้งใจเรียน มีการตอบโต้สนทนากับอาจารย์ระหว่างการสอน
ประเมินอาจารย์ อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา เเต่งกายสุภาพเรียบร้อย อธิบายเนื้อหาเข้าใจง่าย


บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 11
วันพฤหัสบดี ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2561
ความรู้ที่ได้รับวันนี้

        วันนี้อาจารย์ได้พานักศึกษาไปดูงานที่ ศูนย์พัฒนาการเด็กอ่อนก่อนวัยเรียนพิทักษา  ตั้งอยู้ที่ 727/68 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700 ส่วนที่ไปศึกษาคือ แนวทางการบริหารจัดการ การศึกษาระดับปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพ

ประวัติศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา
​         สำนักงานอนามัยกรุงเทพมหานครได้จัดการอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำชุมชนวัดอมรทายิการามขึ้น หลังจากนั้นกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขได้สำรวจปัญหาในชุมชนพบว่า
มีปัญหา 2 ประการ คือ ปัญหายาเสพติด และปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพเด็ก  กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขจึงตัดสินใจเลือกแก้ปัญหาสุขภาพเด็ก
       โดยจัดตั้ง “ศูนย์รับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา” โดยขอความอนุเคราะห์เรื่องสถานที่จาก
ท่านพระครูวิบูลธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดอมรทายิการาม  เริ่มแรกท่านให้ใช้กุฏิเก่าของท่าน
มีจำนวนเด็ก 40-50 คน มีอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก 4 คน ต่อมากุฏิเก่าเริ่มชำรุดทรุดโทรม
ไม่สามารถซ่อมแซมได้ ท่านเจ้าอาวาสจึงอนุญาตให้สร้างอาคารหลังใหม่ เป็นอาคารชั้นเดียว
โดยมีคณะสงฆ์ ครูและผู้ปกครองร่วมกันก่อสร้าง ได้รับการสนับสนุนทุนสร้าง
จากสำนักงานเขตบางกอกน้อย ผู้ปกครองนักเรียน คณะครู และได้เปลี่ยนชื่อเป็น
“ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา” เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่  11 ตุลาคม  พ.ศ. 2527
ในปี พ.ศ.2530 ได้เปิดอย่างเป็นทางการ สภาสตรีแห่งชาติและสภาสังคมสงเคราะห์ได้
ส่งอาสาสมัครเข้ารับการอบรมเสริมทักษะด้านการเลี้ยงดูเด็ก และอาหารเสริม  ต่อมา ได้เข้าสังกัด กองสังคมสงเคราะห์ กรุงเทพมหานคร ได้รับค่าตอบแทนวันละ 40 บาท อาสาสมัครจำนวน 4 คน ในปี พ.ศ.2536 กองพัฒนาชุมชนได้รับช่วงต่อมา  ให้การสนับสนุนโดยขึ้นค่าตอบแทน  80บาทต่อวัน  ทำงานและส่งเสริมพัฒนาอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก ในเรื่องการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เด็กแรกเริ่มอาสาสมัครผู้ดูแลเด็กมีวุฒิการศึกษา ปวช., ม.6, ม.3 เข้ามาทำงานด้วยใจรักเด็ก ไม่หวังค่าตอบแทน  ต่อมาได้ศึกษาต่อด้วยทุนตนเอง จนจบอนุปริญญา และปริญญาตรี 
เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาตนเองและนำความรู้ใหม่ ๆ มาสอนเด็ก ส่วนพวกไม่มีทุนเรียนจะได้รับการอบรมในองค์กรต่างๆ  จากนั้นสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ได้สนับสนุนค่าตอบแทน เพิ่มเป็น 5,640 บาทและทำประกันสังคมให้ 
            ปัจจุบันมีนักเรียนอายุ  2 – 6 ปี  จำนวน 400-500 คน มีอาสาสมัครดูแลเด็กจำนวน  35 คน ได้สร้างอาคารเรียนเพิ่มเป็นอาคารเรียนเป็น 3 ชั้น  และใช้หลักสูตร
การศึกษาปฐมวัย 2546  จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้มีพัฒนาการครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียนการสอน ด้านสภาพแวดล้อมให้เจริญตามลำดับมีอาสาสมัครชาวต่างชาติจาก หน่วยงานCross-Cultural Solutions (CCS) องค์กรอาสาสมัครนานาชาติ จดทะเบียนที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดส่งอาสาสมัครชาวต่างชาติมาช่วยสอนภาษาอังกฤษ ทำให้ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษาเป็นที่รู้จักและทำให้เป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง

โครงสร้างการบริหารศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนพิทักษา







ภาพบรรยายกาศระหว่างศึกษาดูงาน





ผู้บริหารสถานศึกษาได้เป็นผู้บรรยายข้อมูลเกี่ยวกับสถานศึกษาให้นักศึกษาฟัง 
ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งคะ





























       คุณครูที่โรงเรียนได้พาพวกเราชมห้องเรียน ห้องสมุด สนามเด็กเล่น โรงอาหาร เเละบริเวณรอบๆโรงเรียน พวกเรียนจะนำความรู้ที่ได้ในวันนี้ไปพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นไป ขอบคุณมากค่ะ